Coolsculpting คืออะไร ?

Coolsculpting คือ การกำจัดไขมันออกจากร่างกาย ซึ่งคิดค้นและพัฒนาโดยบริษัท Abbvie ร่วมกับทีมแพทย์มหาวิทยาลัย Harvard ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นการนำความเย็นระดับลบ 11 องศา ลงไปใต้ชั้นผิวหนังเข้าสู่ชั้นไขมัน โดยกระบวนการดังกล่าวเป็นแบบ Non-invasive จึงไม่ทำให้เกิดรอยแผล ไม่ทำลายเซลล์และเนื้อเยื่อส่วนอื่นๆ ไม่ต้องพักฟื้น เป็นเครื่องมือแรกและเครื่องเดียวในขณะนี้ ที่ได้รับการรับการพิสูจน์แล้วว่า ใช้ในการลดไขมันในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นผลที่สุด

หลักการทำงานของ Coolsculpting

ผู้ที่เคยผ่านการออกกำลังกายมาทุกวิถีทาง เพื่อการลดน้ำหนัก แต่ยังปรากฎไขมันสะสมเฉพาะส่วนอยู่เป็นจำนวนมาก หัวดูดสูญญากาศ (Applicator) จะปล่อยพลังงานความเย็น ภายใต้การควบคุมความเย็นติดลบ 11 องศา ควบคู่กับแรงดึงดูดสูง อุณหภูมิเย็นจัดจะเข้าไป Freeze ให้ความเย็นทำลายเฉพาะเจาะจงไปยัง “เซลล์ไขมัน” เท่านั้น เซลล์ไขมันจะค่อยๆตายไป และแปรเปลี่ยนเป็นของเสียเข้าสู่ระบบน้ำเหลือง จากนั้นร่างกายจะระบายออกตามกลไกธรรมชาติ เซลล์ไขมันจะถูกสลายออกไปได้ 20-25% โดยประมาณ และจะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น 3 สัปดาห์หลังทำ 1-3 เดือนหลังได้รับการทำ Coolsculpting สัดส่วนบริเวณที่ทำจะมีขนาดเล็กลง แลดูสมส่วนยิ่งขึ้น

Coolsculpting สามารถทำบริเวณไหนได้บ้าง

• ผู้ที่ต้องการลดไขมันบริเวณ รอบเอว, หน้าท้อง, ข้างลำตัว, แผ่นหลัง, สะโพก, ต้นแขน, ต้นขา, บริเวณขอบชุดชั้นใน (ที่ไม่สามารถลดได้ด้วยการออกกำลังกาย ซึ่งวิธีอื่นๆทำได้ยากมาก)
• คุณแม่หลังคลอดที่ต้องการลดสัดส่วน
• ผู้ที่มีต้นแขนที่ใหญ่ใส่เสื้อผ้าแล้วแน่น
• ผู้ที่มีไขมันต้นขาด้านในมาก เดินแล้วเสียดสีกัน
• ผู้ชายที่มีหน้าอกใหญ่ ต้องการลดขนาดของหน้าอก

การรักษาด้วย Coolsculpting

หลังจากการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเลือกบริเวณที่จะติดตัวเครื่อง ให้แนบสนิทกับผิวหนังด้วยระบบสุญญากาศ ระยะการทำงานนั้นใช้เวลาเพียง 35 นาทีต่อจุด (หัว CoolAdvantage รุ่นใหม่) โดยในช่วง 5 นาทีแรกที่ตัวเครื่องทำการแนบสนิทกับผิวหนัง จะรู้สึกได้ว่ามีการดึง การดูดเล็กน้อยและจะเริ่มรู้สึกเย็น หลังจากนั้นคอมพิวเตอร์ในเครื่อง จะปรับอุณหภูมิให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม โดยเครื่องมือนี้จะส่งคลื่นความเย็นในระดับติดลบ ซึ่งมีผลต่อการไหลเวียนของเลือดที่มีผลต่อเซลล์ไขมันเท่านั้น เมื่อเซลล์ไขมันถูกคลื่นความเย็นก็จะค่อยๆทำลายตัวเองไปเรื่อยๆ และร่างกายก็จะกำจัดเซลล์ไขมันที่ตายแล้วเหล่านี้ออกไป ทางระบบน้ำเหลืองและในการรักษาแต่ละครั้งสามารถลดจำนวนไขมัน ในบริเวณที่ทำการรักษา ได้ประมาณ 20-25%

ในระหว่างที่ทำการรักษาก็สามารถฟังเพลง เล่นโทรศัพท์มือถือ อ่านหนังสือ หรือจิบน้ำชาไปด้วยก็ได้ เพราะไม่เจ็บ ไม่ใช่การผ่าตัด ไม่มีการดมยาสลบ และใช้เวลาสั้นๆประมาณ 35 นาทีต่อจุด (หัว CoolAdvantage รุ่นใหม่) จึงเป็นที่นิยมในหมู่ของผู้ที่ต้องการลดสัดส่วน และต้องการขจัดไขมันที่ได้ผลจริง โดยไม่ต้องผ่าตัด เมื่อทำเสร็จสามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ โดยแทบไม่มีใครรู้เลยว่าเพิ่งกลับมาจากการลดไขมัน เพราะเป็นวิธีที่ไม่มีผลข้างเคียงเกิดขึ้นให้เห็นที่ผิวภายนอกเลย จะมีก็แต่อาการระบมอยู่ภายในนิดหน่อย ซึ่งจะหายไปเองภายในไม่กี่วัน

CoolAdvantage หัวดูดสูญญากาศรุ่นใหม่ล่าสุด

เนื่องจากบริเวณไขมันของคนไข้แต่ละราย มีรูปแบบความหนาและความโค้งที่แตกต่างกัน เครื่อง Coolsculpting จึงออกแบบหัวดูดสูญญากาศ (Applicator) ให้เหมาะสมตามขนาดความหนา และรูปร่างของชั้นไขมันในของแต่ละบุคคล เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งทาง สุรีย์พรคลินิก ใช้หัวสูญญากาศ รุ่นใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า CoolAdvantage ซึ่งเป็นหัวที่ปล่อยความเย็นจัดพิเศษ และมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าปกติ เพื่อให้ครอบคลุมการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด และยังย่นระยะเวลาทำจาก 1 ชั่วโมง เหลือเพียง 35 นาที สามารถเห็นผลดีรวดเร็วฆ่าไขมันได้มากที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดสัดส่วน โดยไม่ต้องการไปดูดไขมัน ไม่มีแผล และเห็นผลรวดเร็วในเวลาตั้งแต่ 3 สัปดาห์เป็นต้นไป นอกจากนี้หัวดูดสูญญากาศรุ่น CoolAdvantage ให้ความรู้สึกสบายกว่าในขณะทำเมื่อเทียบกับหัวรุ่นเก่า

Coolsculpting ปลอดภัยหรือไม่

• ในปัจจุบัน Coolsculpting เป็นเครื่องมือเดียวที่ได้รับการรับรองจาก องค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา (US.FDA)ให้ใช้ในการลดไขมันเฉพาะส่วน ซึ่งสามารถกำจัดไขมันได้จริง
• มีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับมากกว่า 70 ฉบับ
• ผิวชั้นบนจะถูกปกป้องไว้ด้วยแผ่นอาบสารละลายป้องกันผิวหนังแข็งตัว มีเพียงชั้นไขมันที่ถูกความเย็นแทรกซึม
• Control Unit และ Semiconductor Cooling System ประสิทธิภาพสูง ช่วยควบคุมอุณหภูมิได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
• เป็น Non-invasive Technology ไม่ทำให้เกิดแผล ไม่เจ็บ และไม่ต้องพักฟื้น
• ผลข้างเคียงที่อาจพบคือ อาการชาซึ่งจะหายในเวลาไม่เกิน 4 สัปดาห์ ในบางรายมีอาการเจ็บหลังทำ ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยการทานยาพาราเซตามอล หรือประคบเย็น